วิธีการลบไฟล์ขยะ Windows 10

ไฟล์ขยะในระบบนั้นเกิดจากไฟล์ชั่วคราวที่ระบบสร้างไว้ใช้งานในขณะที่เราเรียกใช้โปรแกรมนั้นๆ หรือติดตั้งโปรแกรม/เกมส์ จะมีการสร้างไฟล์ไว้ แล้วเมื่อปิดโปรแกรมนั้น ไฟล์ที่ยังจะถูกเก็บไว้ในระบบ System หากว่าเก็บไว้ระบบเยอะๆ ก็จะทำให้โปรแกรมทำงานได้ช้าลง เพราะการเขียน/อ่านไฟล์ชั่วคราวใหม่ทำได้ช้ากว่าเดิม เพราะมีไฟล์เก่าจำนวนมากเก็บในนั้น โดยมี 3 วิธี ดังนี้

วิธีที่ 1 เข้าลบผ่าน Windows Settings “Temporary files”

1.1 ให้คลิกที่ Start menu (เริ่ม) และคลิกไอคอน Settings (การตั้งค่า)

1.2 จากนั้นที่หน้า Windows Settings ให้เลือก Systems (ระบบ)

1.3 หลังจากนั้นให้เลือกที่หัวข้อ Storage (ที่เก็บข้อมูล)

1.4 จะแสดงข้อมูลไดร์ C ในเครื่องของเรา ให้คลิกเลือกที่ Temporary files (ไฟล์ชั่วคราว)

รอสักครู่ ระบบจะสแกนหาไฟล์ที่สามารถลบได้

1.5 เมื่อสแกนเสร็จแล้วก็ให้เลือกทุกช่อง หรือจะเลือกบางหัวข้อก็ได้ แล้วคลิกที่ปุ่ม Remove files (นำไฟล์ออก) ได้เลย

วิธีที่ 2 เข้าไปลบใน Disk Cleanup

2.1 ที่ช่องค้นหาให้พิมพ์ Disk Cleanup (การล้างข้อมูลบนดิสก์)

2.2 คลิกเลือก Disk Cleanup (การล้างข้อมูลบนดิสก์)

2.3 หากเครื่องเรามีไดร์ฟมากกว่า 1 คือมีไดร์ฟ C, D, E ก็จะมีหน้าต่างให้เลือกแบบนี้ ซึ่งก็ให้เลือกไดร์ฟ C แล้วคลิกปุ่ม Ok

2.4 จากนั้นรอสักครู่โปรแกรมจะสแกนหายไฟล์ในระบบ

2.5 เมื่อเปิดหน้าต่างขึ้นมา ก็ให้เลือกช่องที่ต้องการลบ ซึ่งแนะนำให้เลือกทุกช่อง อาจจะยกเว้นช่อง Download

2.6 เลือกเสร็จแล้วก็คลิกปุ่ม Ok ได้เลย

2.7 รอสักครู่โปรแกรมจะลบข้อมูลและปิดหน้าต่างไปเอง

วิธีที่ 3 เข้าไปลบในโฟลเดอร์ Temp

3.1 กดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิดหน้าต่าง Run box

3.2 ให้พิมพ์ %tem% ในช่อง และกดปุ่ม Ok หรือกด Enter

3.3 จากนั้นจะเปิดหน้าโฟลเดอร์ Temp

3.4 ให้กดปุ่ม Ctrl + A เพื่อเลือกทุกไฟล์ในโฟลเดอร์ และกดปุ่ม Shift + Delete

3.5 รอจนลบไฟล์หมด และปิดหน้าต่างโฟลเดอร์ Temp ได้เลยครับ

ผู้เขียน

เอนกวิทย์ พลรบ
ฝ่ายปฏิบัติการและบริการ
สำนักคอมพิวเตอร์
anekwit@g.swu.ac.th